สร้างแบรนด์ครีม 10 ขั้นตอนง่ายๆ เพิ่มรายได้แบบพุ่งกระฉูด

สร้างแบรนด์ครีม 10 ขั้นตอนง่ายๆ เพิ่มรายได้แบบพุ่งกระฉูด

สร้างแบรนด์ครีม 10 ขั้นตอนง่ายๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่เคยมีอดีตรุ่งโรจน์ โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ต่างปิดตัวลงเนื่องจากได้รับผลกระทบ (disruption) จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม มีธุรกิจอยู่ประเภทหนึ่งที่ยังสามารถยืนหยัดอยู่ท่ามกลางกระแสเชี่ยวกรากและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก นั่นก็คือธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามนั่นเอง

10 ขั้นตอนสร้างแบรนด์ครีมง่ายๆ สร้างรายได้อย่างงดงาม

เนื่องจากความสวยความงามและผิวพรรณที่ผ่องใสดูดีล้วนเป็นความปรารถนาของผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย ความต้องการคลาสสิคดังกล่าวจึงเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามอย่างครีมบำรุงผิวยังคงเจริญเติบโตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการผลิตครีมเพื่อความงามไม่ได้ผูกขาดอยู่แต่กับบริษัทใหญ่ที่มีเงินทุนสูงอีกต่อไป เพราะใคร ๆ ก็สามารถสร้างแบรนด์ครีมของตนเองได้ เพียงแค่ทำตาม 10 ขั้นตอนสร้างแบรนด์ที่เราแนะนำในบทความนี้ ก็จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นการสร้างแบรนด์ครีม แบรนด์เครื่องสำอาง ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไม่ยาก

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านได้เลย ทำแบรนด์ครีม อ่านด่วน! ติดหูแน่แค่ใช้ 6 ทริค ก่อนคิดชื่อแบรนด์

สร้างแบรนด์ครีม1.รู้จักตลาดและฐานลูกค้าของตัวเอง

การสร้างแบรนด์ขึ้นมาโดยไม่รู้จักลูกค้าไม่ต่างจากการสาดกระสุนใส่ความมืด โดยหวังว่ามันจะฟลุคโดนเป้าหมายเข้าสักนัด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การเร่งสร้างแบรนด์โดยปราศจากการกำหนดฐานลูกค้าให้ชัดเจน ว่าต้องการจำหน่ายครีมให้กับลูกค้าประเภทไหน มีกำลังซื้อเท่าใด ครีมแนวไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนั้น เสี่ยงที่จะล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ ฉะนั้น คุณควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกว่าใครคือลูกค้า กลุ่มคนแบบไหนที่จะมาซื้อสินค้าของคุณ แล้วจึงค่อยดีไซน์ครีมที่สนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนั้นๆ

2.ไม่แน่ใจเรื่องสูตรให้ถามผู้เชี่ยวชาญ

การเลือกสูตรครีมที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ครีมให้ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจเครื่องสำอางมือใหม่อาจจะไม่แน่ใจว่าการทำสูตรครีมต้องเริ่มยังไง เราขอแนะนำให้คุณลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทหรือโรงงานรับทำครีมซึ่งมีอยู่มากมาย โดยบริษัทเหล่านั้นส่วนใหญ่จะมีสูตรครีมมาตรฐานให้เลือกตามลักษณะแบรนด์ กลุ่มลูกค้า คุณสมบัติที่ต้องการ ตลอดจนราคาขาย ซึ่งคุณสามารถปรึกษาและเลือกใช้บริการแพ็คเกจผลิตครีมของบริษัทซึ่งครอบคลุมทุกกระบวนการตั้งแต่การผลิตครีม เลือกบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการยื่นขอ อย.เลยทีเดียว

3.สร้างสูตรครีมในแบบของเราเอง

บางครั้งสูตรครีมมาตรฐานอาจจะมีคุณสมบัติที่ไม่แตกต่างไปจากครีมที่วางขายอยู่ในตลาดมากนัก หากคุณต้องการจะสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ครีมของตนเอง การเลือกพัฒนาสูตรครีมขึ้นมาใหม่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยขั้นตอนการสร้างสูตรครีมของตัวเองนั้นไม่ยากเลย เพียงแค่คุณเลือกบริษัทผลิตครีมที่มีบริการผลิตครีมตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งบริการนั้นจะรวมถึงการให้คำปรึกษาจากเภสัชกรและนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถสร้างสูตรครีมได้ตรงกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะใส่สารอะไร เพิ่มคุณสมบัติอะไร ก็ทำได้ทั้งสิ้น ตลอดจนการันตีความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญ

สร้างแบรนด์ครีมง่ายๆ

4.การตลาดคือหัวใจสำคัญ

สินค้าดีมีคุณภาพไม่สามารถขายตัวเองได้โดยปราศจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วยเหตุนี้ การตลาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการสร้างแบรนด์ควบคู่ไปกับคุณภาพครีมของคุณ ปัจจุบันคุณสามารถใช้ช่องทางในการโฆษณาสินค้าได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายผ่านโซเชียลมีเดีย แต่ก็จำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการโฆษณา มิฉะนั้นอาจเป็นการสิ้นเปลืองงบโดยเปล่าประโยชน์ได้ ดังนั้น หากคุณรู้ตัวว่าการทำการตลาดไม่ใช่จุดแข็งของแบรนด์ครีมของคุณ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็อาจช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทรับผลิตครีมที่มีฝ่ายการตลาดมืออาชีพหรือนักการตลาดออนไลน์ โดยควรทำตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสร้างดีมานด์ให้กับสินค้าของเราก่อนจะมีซัพพลายออกมาสนองความต้องการนั่นเอง

5.บรรจุภัณฑ์ต้องเตะตา ถ่ายรูปสวย

บรรจุภัณฑ์คือหน้าตาที่จับต้องได้ของแบรนด์ครีมทุกชนิดเพราะเนื้อครีมไม่ว่าจะแบรนด์ไหนย่อมมีลักษณะไม่ต่างกันมากนัก การดีไซน์บรรจุภัณฑ์ ฉลาด และโลโก้แบรนด์จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการจูงใจให้ลูกค้าหยุดมองสินค้า และตัดสินใจซื้อด้วยคุณสมบัติของครีม โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดครีมมีตัวเลือกและคู่แข่งมากมาย การสร้างปัจจัยตื่นตา (wow factor) ให้กับสินค้าจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่รู้ว่าจะออกแบบบรรจุภัณฑ์ยังไงให้เวลาไลฟ์สดโฆษณาหรือวางขายแล้วคนหยุดดูทันทีก็อาจลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในบริษัทผลิตครีมดูได้ โดยเฉพาะทีมกราฟฟิคที่สามารถทำตัวอย่างให้ดูก่อนการผลิตจริง เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์แบบที่คุณต้องการจริง ๆ

6.เลือกผลิตครีมแบบครบวงจร

หลังจากที่คุณได้ผ่านกระบวนการเริ่มแรกสำหรับการสร้างแบรนด์ครีมของตนเองแล้ว ได้แก่ การกำหนดกลุ่มลูกค้า การเลือกสูตรครีม การออกแบบแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ และการยื่นสูตรให้ อย.ตรวจสอบจนผ่านแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุดอย่างการผลิตครีมนั่นเอง โดยหากคุณเลือกบริษัทหรือโรงงานผลิตครีมที่ดูแลกระบวนการผลิตครีมตั้งแต่ต้นจนจบแบบครบวงจร ขั้นตอนนี้คุณก็ไม่ต้องทำอะไรนอกจากทำการตลาดรออย่างเดียว โดยปล่อยให้มืออาชีพผลิตครีมพร้อมบรรจุภัณฑ์ให้ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เมื่อเสร็จก็พร้อมปล่อยออกสู่ท้องตลาดทันที

สร้างแบรนด์ครีมเพิ่มรายได้

7.ต้องทำการตลาดตลอดเวลา ห้ามหยุดเด็ดขาด

เมื่อแบรนด์ครีมของคุณเสร็จสิ้นกระบวนการผลิตแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือการสร้างทราฟฟิคให้กับสินค้าของตนเอง จะหาช่องทางในการวางสินค้าอย่างไรให้เข้าถึงลูกค้า บางคนอาจจะเลือกนำผลิตภัณฑ์ครีมไปนำเสนอตามงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ตลาดนัด หรือใช้พรีเซ็นต์เตอร์ในการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์อย่างการสร้างเพจ การลงโฆษณาผ่าน Facebook หรือ Google Ads การทำช่อง YouTube หรือการขายผ่าน IG ซึ่งทั้งหมดต้องมีการวางแผนการตลาดอย่างเป็นระบบ หากไม่มั่นใจว่าควรเลือกช่องทางใดก็อาจปรึกษากับฝ่ายการตลาดกับบริษัททำครีมที่คุณใช้บริการอยู่ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยได้ดีเช่นกัน

8.ขายไม่ออกบอกให้บริษัทช่วย

สิ่งที่หลายคนประสบพบเจอระหว่างการสร้างแบรนด์ครีมของตัวเองในช่วงแรกคือการขายไม่ออก ไม่ต้องตกใจหรือกังวลมากไป เพราะทุกคนที่ประสบความสำเร็จย่อมต้องผ่านพ้นช่วงเวลานี้มาแล้วทั้งสิ้น คุณอาจจะลองค้นหาสาเหตุที่ทำให้ครีมขายไม่ออกดูด้วยตนเองก่อน เช่น เจาะกลุ่มเป้าหมายผิด ไม่ทำการตลาดคนไม่รู้จักสินค้า หรือมีคู่แข่งในตลาดเยอะเกินไป โดยลองพยายามแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นอย่างการปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาด เปลี่ยนกลุ่มลูกค้า หรือลองจัดรายการลดราคา/โปรโมชั่น หรืออาจจะลองปรึกษาฝ่ายการตลาดของบริษัทผลิตครีมที่ใช้บริการก็อาจจะช่วยให้พอได้แนวทางการกระตุ้นยอดขายให้ดีขึ้นได้

9.วางแผนการสต็อกสินค้าแบบมืออาชีพ

เมื่อแบรนด์ครีมของคุณถูกวางขายในตลาด คุณไม่มีทางรู้ล่วงหน้าเลยว่าสินค้าดังกล่าวจะขายดีหรือไม่ หากครีมของคุณได้รับความนิยมจากลูกค้าและกระแสบอกปากต่อปากทำให้ครีมขายดีจนหมดสต็อก ข้อแนะนำในกรณีนี้คือห้ามปล่อยให้สินค้าขาดตลาดโดยเด็ดขาด เพราะนั่นทำให้สูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้อย่างใหญ่หลวง เพราะความต้องการของลูกค้าอาจจะมีระยะเวลาจำกัด หากไม่มีสินค้ามาตอบสนองความต้องการดังกล่าวอย่างเพียงพอ เมื่อเจอสินค้าใหม่ที่มีคุณสมบัติแบบเดียวกัน พวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนใจไปซื้อผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งแทนได้เช่นกัน ฉะนั้น คุณควรทำงานร่วมกับบริษัทผลิตครีมที่คุณใช้บริการอย่างใกล้ชิด เพราะบริษัทเหล่านั้นจะมีฝ่ายโลจิสติกส์ที่ช่วยคุณประเมินได้ว่าสินค้าในสต็อกควรต้องผลิตเพิ่มเมื่อไหร่ ต้องผลิตจำนวนเท่าใดเพื่อให้พอขาย ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระงานของคุณได้เป็นอย่างมาก

สร้างแบรนด์ครีม

10.ร่วมกำหนดอนาคตของแบรนด์กับบริษัท

สิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งของการสร้างแบรนด์ครีมให้มีรายได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คือ การวางแผนอนาคตของแบรนด์ในระยะยาว หากแบรนด์ครีมของคุณขายดีและมีแววว่าจะไปได้ไกล คุณควรปรึกษากับบริษัทผลิตครีมว่าควรจะทำอย่างไรเพื่อต่อยอดความสำเร็จนั้น อาทิ การทำการตลาดให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น การติดต่อคนมีชื่อเสียงเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์สินค้า การทำเซ็ตสินค้า การแตกไลน์สินค้าสำหรับกลุ่มเป้าหมายใหม่ และการเพิ่มมูลค่าและยอดขายให้กับแบรนด์ปัจจุบันของคุณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญสามารถให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่อง โดยคุณไม่จำเป็นต้องคิดเอง ทำเองเพียงลำพัง

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านได้เลย โรงงานผลิตอาหารเสริมที่ดีที่สุด ต้องดูจากอะไรบ้าง

หลายคนมีความฝันอยากจะมีแบรนด์ครีมเป็นของตนเอง หลายคนเริ่มลองผิดลองถูกจากศูนย์ พยายามสร้างเนื้อสร้างตัว กระทั่งสามารถทำครีมที่สร้างรายได้แบบพุ่งกระฉูดได้ในเวลาอันรวดเร็ว คุณเองก็เป็นหนึ่งในนั้นได้เช่นกัน เพียงทำตาม 10 ขั้นตอนที่บทความนี้แนะนำ และเลือกบริษัทหรือโรงงานผลิตครีมมืออาชีพที่มีมาตรฐาน การันตีความปลอดภัย และให้บริการแบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยทำความฝันของคุณให้เป็นจริงได้ในท้ายที่สุด                

Last Updated on by

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save