ครีมกันแดด สร้างแบรนด์ให้ดังได้ด้วย 5 ขั้นตอน
เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน ทำให้แสงแดดมีค่ายูวีสูง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวได้ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้เลย สำหรับคนที่มีความสนใจอยากสร้างแบรนด์ ครีมกันแดด เป็นของตัวเอง หรือสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ทราบวิธีสร้างแบรนด์ครีมกันแดด วันนี้เราก็มี 5 ขั้นตอนง่ายๆ มานำแนะนำให้คุณได้ทราบดังนี้แล้ว
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย ครีมกันแดด สร้างแบรนด์ ระหว่าง Chemical กับ Physical ตัวไหนดี
5 ขั้นตอนสร้างแบรนด์ ครีมกันแดด เป็นของตนเอง
1.ศึกษาตลาด
ขั้นตอนแรก สำหรับการสร้างแบรนด์หรือเปิดกิจการเป็นของตนเองก็คือ การศึกษาตลาด หรือกลุ่มลูกค้าที่สนใจ ว่าคนกลุ่มนี้ มีปัญหาเรื่องไหนมากที่สุด ต้องการสินค้าแบบไหน และรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ชื่นชอบเป็นแบบไหน ซึ่งถือได้ว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพื่อที่จะสามารถวางแผนการทำงานและการออกแบบส่วนผสม คุณสมบัติ และรูปแบบผลิตภัณฑ์ตามกลุ่มลูกค้าที่เจ้าของแบรนด์สนใจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งในส่วนของครีมกันแดดผู้ผลิตสามารถเลือกสรรสูตร ลักษณะเนื้อครีมและคุณสมบัติของตัวครีมเองได้
ตัวอย่างเนื้อครีมกันแดด
ครีมกันแดดเนื้อครีม : เป็นครีมกันแดดที่พบเห็นได้ทั่วไปในท้องตลาด โดยเป็นเนื้อครีมสำหรับผู้ที่เพิ่งริเริ่มสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง เนื่องจากข้อดีของเนื้อครีมแบบนี้ คือสามารถปรับความเข้มข้น และความหนืดของครีมได้ หรือสามารถปรับลดความมันได้ ส่วนข้อเสียของเนื้อครีมประเภทนี้คือ ไม่สามารถกันน้ำได้ เมื่อเจออากาศร้อนเนื้อครีมจะไหลย้อยออกมากับเหงื่อได้
ครีมกันแดดเนื้อเจล : จะมีลักษณะคล้ายกับเนื้อครีมแต่จะมีความเบาบางที่มากกว่า ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะหลังทา ส่วนข้อเสียก็เช่นเดียวกับครีมกันแดดเนื้อครีมคือ ไม่สามารถกันน้ำได้
ครีมกันแดดเนื้อโลชั่น : ลักษณะของเนื้อครีมประเภทนี้มีความแตกต่างกันไปหลายรูปแบบ คือสามารถทำให้มีความเหลวเป็นเนื้อครีม หรือปรับความเข้มข้นให้มีลักษณะเป็นเนื้อแป้งได้ ข้อดีของเนื้อครีมประเภทนี้คือ เนื้อครีมเหลว ซึมซาบเข้าสู่ผิวหน้าได้ง่าย แห้งเร็ว และไม่ค่อยทิ้งความมันไว้บนผิว ส่วนข้อเสียคือ เนื้อครีมสามารถตกตะกอนและแยกชั้นได้ง่ายกว่าเนื้อครีมประเภทอื่น
ครีมกันแดดสเปรย์ : เป็นการนำเนื้อครีมกันแดดมาบรรจุในกระป๋องสเปรย์และอัดแก๊สเข้าไป เพื่อผลักดันให้ได้เนื้อครีมที่มีลักษณะเป็นละอองฝอย ข้อดีคือ สามารถใช้ได้สะดวก ส่วนข้อเสียคือ งบประมาณการผลิตที่ค่อนข้างสูง และส่วนประกอบบางอย่างของครีมกันแดด ที่เป็นข้อกำจัดในการผลิตและการทำงานของหัวสเปรย์
ครีมกันแดดผสมรองพื้น : เป็นครีมกันแดดที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะข้อดีของเนื้อครีมแบบนี้ ทำให้ใช้งานง่าย เกลี่ยไปกับผิวหน้าได้ง่าย ปกปิดจุดด่างดำต่างๆ ได้ดี และสามารถช่วยลดระยะเวลาในการแต่งหน้าได้ ส่วนข้อเสียคือ อาจทำให้รู้สึกหนักหน้า ต้องมีการเลือกสีที่เหมาะสมกับผิวหน้า เพื่อป้องกันหน้าลอย
2.บรรจุภัณฑ์
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความโดดเด่น สามารถช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ โดยทั่วไปครีมกันแดดมักบรรจุในหลอด เพื่อให้สามารถพกพาง่าย ใช้งานได้สะดวก และสำหรับหลอดครีมกันแดดที่ดีควรเป็นหลอดพลาสติก 5 ชั้น เพื่อป้องกันปัญหาการใช้งาน หรือหลอดหนืดจากการซึมของน้ำมันในเนื้อครีม
3.การส่งตัวอย่างไปวิเคราะห์ค่าสารกันแดด
หลังจากการคิดค้นครีมกันแดดขึ้นมาแล้ว ควรส่งไปวิเคราะห์ค่า SPF และ PA เพื่อให้สามารถใช้เป็นข้อพิจารณาการเลือกซื้อของผู้บริโภคได้ สำหรับการส่งตัวอย่างครีมกันแดดไปวิเคราะห์ค่า ค่าที่ได้จะส่งมาในเอกสารภายใต้ชื่อแบรนด์ ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้
4.การขึ้นทะเบียนสินค้า
หลังจากได้เอกสารวิเคราะห์ SPF และ PA มาแล้ว ทางเจ้าของแบรนด์สามารถขึ้นทะเบียนสินค้าภายใต้ชื่อแบรนด์ และในขั้นตอนนี้แนะนำให้ทำควบคู่ไปกับการออกแบบฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยประหยัดเวลา
5.ขั้นตอนการผลิตสินค้าและส่งจำหน่าย
เมื่อสินค้าได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์และฉลากแล้ว ก็ถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการผลิตและส่งออกสินค้า ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องมีการวางแผนการตลาดเป็นขั้นตอน ทำรีวิว ทำโปรโมชันเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ควบคู่ไปการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ทุกรูปแบบ
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย สร้างแบรนด์ครีมกันแดด ทำเงินได้ ด้วย 4 ทริค
ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนฉบับย่อส่วนที่มีความครอบคลุม สำหรับผู้ที่สนใจอยากสร้างแบรนด์ครีมกันแดดเป็นของตนเอง เพียงแค่ลองศึกษาตลาด ประเมินความเสี่ยง และทำตามขั้นตอนทั้ง 5 ข้อ ที่กล่าวไปข้างต้น คุณก็สามารถมีแบรนด์ชื่อดังเป็นของตนเองได้แล้ว
