หน้าหนาว ไม่มีพัง พร้อมรับมือ 6 ปัญหา ที่แฝงมาทำร้ายผิว

หน้าหนาวไม่มีพังพร้อมรับมือ 6 ปัญหา ที่แฝงมาทำร้ายผิว

หน้าหนาวไม่มีพังพร้อมรับมือ 6 ปัญหา  ลมหนาวที่โชยพัดมา นอกจากจะเป็นสัญญาณว่าฤดูหนาวได้ย่างกรายเข้าใกล้แล้ว ยังเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพผิวของคุณผู้หญิงอีกด้วย โดยเฉพาะความแห้งที่มาพร้อมกับฤดูหนาวและส่งผลกระทบต่อความชุ่มชื้นของสภาพผิวจนนำไปสู่อาการผิวแห้ง ผิวแตก ที่เป็นโจทย์ที่หลายคนต้องหาทางรับมือ วันนี้เราจึงได้รวบรวม 6 ปัญหาที่มาพร้อมกับลมหนาวอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวของคุณ พร้อมทั้งวิธีรับมือที่จะช่วยให้คุณสามารถผ่านพ้นฤดูหนาวไปได้อย่างมั่นใจ พร้อมกับผิวพรรณที่เนียนนุ่ม สดใสราวกับลมหนาวไม่สามารถทำอะไรได้เลย

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อเลย หน้าหนาว แต่ผิวยังดูดี เพราะรับมือด้วย 20 วิธี ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้

หน้าหนาวไม่มีพัง

  1. ปัญหาผิวแตก

หนึ่งในปัญหาสุคลาสสิคที่มาพร้อมกับลมหนาวทุกปี ปัญหาผิวแตกเกิดจากในฤดูหนาวนั้น ความชื้นหรือไอน้ำในอากาศลดลง หรือที่เรียกว่าอากาศแห้งนั้นเอง ส่งผลให้น้ำที่หล่อเลี้ยงสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังนั้นระเหยออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่อาการแห้งของผิวหนังที่มีอยู่ด้วยกันหลายระดับ ตั้งแต่ผิวแห้งบางจุดไปจนถึงผิวแตกที่มีอาการคันและอักเสบร่วมด้วย เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็ก ๆ แต่แท้จริงแล้ว ปัญหาผิวแตกเป็นปัญหาสุขภาพที่ต้องรีบรักษาโดยด่วน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้

โดยวิธีที่นิยมใช้ในการรักษาปัญหาผิวแตกนั้น ได้แก่ การใช้ครีม โลชั่น น้ำมัน หรือขี้ผึ้งทาบริเวณที่ผิวแตกเป็นประจำ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะช่วยรักษาความชื้นภายในผิวหนังมิให้ระเหยได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวหนังที่เสื่อมไปจากการขาดน้ำให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น หากการใช้ครีมหรือน้ำมันชโลมผิวไม่สามารถช่วยให้อาการผิวแตกดีขึ้น คุณอาจพิจารณาใช้ครีมสเตียรอยด์อย่าง Prednisolone หรือ Betamethasone ซึ่งสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอาการอักเสบ ปวด บวม แดง และคัน ทั้งนี้ การใช้ยาสเตียรอยด์ไม่ควรใช้เป็นประจำ ควรทาวันละ 2-3 ครั้งหลังอาบน้ำ และเมื่ออาการผิวแตกเริ่มดีขึ้นแล้วก็ให้หยุดใช้งาน เพราะการรับสเตียรอยด์ในปริมาณที่มากเกินไปก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเช่นกัน

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อเลย ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสร้างสวย ใช้ได้ทั่วตัว 

  1. ผิวแห้ง

เช่นเดียวกับอาการผิวแตก ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งไร้เมฆฝนในช่วงฤดูหนาวนั้นทำให้แสง UV สามารถทำอันตรายต่อผิวหนังของคุณมากกว่าฤดูอื่น ๆ เมื่อผนวกกับความแห้งในอากาศที่ดูดน้ำในผิวหนังออกไปแล้ว อาการผิวแห้งจึงเกิดขึ้นตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ การแก้ไขปัญหาจึงอยู่ที่การเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติต่าง ๆ ในการบำรุงผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา น้ำมันอะโวคาโด ซึ่งสามารถช่วยทดแทนน้ำที่สูญเสียไปและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังได้ในขณะเดียวกัน

  1. ผิวหมองคล้ำ

แดดในฤดูหนาวนั้นค่อนข้างแรงทีเดียว นอกจากจะส่งผลให้ผิวพรรณเกิดอาการแห้งและแตกแล้ว ยังส่งผลให้เกิดความหมองคล้ำได้อย่างง่ายดายอีกด้วย เพราะฉะนั้น การเลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 ขึ้นไปตลอดจนการเลือกเสื้อผ้าที่ช่วยป้องกัน UV ได้จึงมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาว นอกจากนั้น ครีมบางชนิดยังสามารถป้องกันผิวรังสี UV เช่นเดียวกับช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ป้องกันไม่ให้ผิวหนังขาดน้ำหล่อเลี้ยง รักษาสภาพของผิวพรรณให้กระจ่าวใส เพิ่มความมั่นใจต่อไปได้ตลอดทั้งฤดูหนาวเลยทีเดียว

  1. ริ้วรอย

นอกจากแสงแดดจะทำให้ผิวหนังของคุณในช่วงฤดูหนาวเสี่ยงต่อการหมองคล้ำและแห้งแตกแล้ว แสงแดดยังเป็นต้นสายปลายเหตุของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าที่ทำให้คุณดูแก่กว่าวัย ซึ่งสิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีทั้งอาหารเสริมและครีมทาผิวที่คุณอาจจะเลือกครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง รวมทั้งมีคุณสมบัติสามารถป้องกันรังสี UV ที่อาจทำอันตรายต่อผิวหนังได้

รับมือในช่วงหน้าหนาว

  1. ผิวมัน

ฤดูหนาวเป็นฤดูที่มาพร้อมกับเทศกาลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลคริสต์มาสยาวไปจนถึงวันหยุดปีใหม่ซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับการกินทั้งนั้น คนจำนวนมากพบว่าน้ำหนักของตนเองในช่วงนี้นั้นเพิ่มสูงมากขึ้นกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ เนื่องจากมีปาร์ตี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากนั่นเอง และด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเองที่ส่งผลต่อสภาพผิวพรรณของคุณที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณไขมันที่เพิ่มมากขึ้นภายในร่างกาย ตลอดจนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อาจส่งผลให้ผิวพรรณเสียสมดุลและเกิดอาการผิวมันได้เช่นกัน ซึ่งวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการหมั่นออกกำลังกาย และใช้ครีมบำรุงผิวที่มีสรรพคุณลดความมันและรักษาสมดุลของน้ำภายใต้ผิวหนังมิให้ระเหยไปได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่อาจนำไปสู่ปัญหาผิวแตกแห้งตามมา

  1. โรคผิวหนัง

ฤดูหนาวมาพร้อมกับอากาศที่เย็นลงทำให้หลายคนต้องเจ็บป่วยเนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ที่หลายคนพบว่าอาจมีปฏิกิริยาทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดอย่างผื่นแดงหรือตุ่มขึ้นตามตัว ซึ่งหากพบว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น การใช้ครีมที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อหรือบรรเทาอาการอักเสบก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถบรรเทาอาการในขั้นต้นได้ แต่หากว่ายังไม่ดีขึ้นนั้น คุณควรเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังอย่างเร็วที่สุด ก่อนที่อาการจะลุกลามมากขึ้นจนรักษาได้ยาก

ใคร ๆ ก็ชอบฤดูหนาว เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ทั้งเทศกาล การแลกของขวัญ และอากาศเย็นสบาย แต่ฤดูหนาวนั้นก็มาพร้อมกับอากาศแห้งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิว อาจก่อให้เกิดอาการผิวแตกแห้ง หมองคล้ำ หรือโรคผิวหนังได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น การเตรียมตัวป้องกันด้วยการทาครีมหรือโลชั่นชนิดต่าง ๆ ตลอดจนหมั่นออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอจึงมีความสำคัญต่อการปกป้องสภาพผิวของคุณระหว่างฤดูหนาว ให้ดูดีเหมือนลมหนาวไม่สามารถทำอะไรผิวพรรณของคุณได้เลย

Last Updated on by

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save